Yunomori ออนเซ็นปัง!! นำทัพ ONSENS เข้าเทรด SET ชูจุดแข็งสปาพรีเมียม
ONSENS เคาะราคาเหมาะสม 2.90 บาท/หุ้น เตรียมเข้า SET ชูจุดแข็งแบรนด์พรีเมียมบุกตลาด Wellness Tourism
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับหุ้นไอพีโอน้องใหม่ในกลุ่มธุรกิจสปาและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เมื่อ Onsen Retreat and Spa Group (ONSENS) เจ้าของออนเซ็นสุดฮิตอย่าง Yunomori Onsen & Spa กำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ได้ประเมินราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2568 ไว้ที่ 2.90 บาทต่อหุ้น ชูจุดเด่นแบรนด์ออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่นแท้ที่แข็งแกร่ง พร้อมกลยุทธ์การเติบโตที่ชัดเจนเพื่อเจาะตลาดนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ที่มีมูลค่ามหาศาล
ภาพรวมอุตสาหกรรมสปาและการเติบโต
อุตสาหกรรม Wellness Economy ของประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยคาดว่าจะขยายตัวเฉลี่ย 7-10% ต่อปี โดยได้รับแรงหนุนจากกระแสความใส่ใจสุขภาพและการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ เฉพาะธุรกิจสปามีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 53,840 ล้านบาทในปี 2566 และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องเป็น 55,000 ล้านบาทในปี 2570
จุดที่น่าสนใจคือ นักท่องเที่ยวกลุ่ม Wellness Tourism มีการใช้จ่ายสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสูงถึง 58,000-60,000 บาทต่อทริป ซึ่งเป็นโอกาสมหาศาลสำหรับผู้ประกอบการในตลาดพรีเมียม
ONSENS กับตำแหน่งในตลาด
ONSENS วางตำแหน่งตัวเองเป็นแบรนด์สปาเฉพาะกลุ่มที่เน้นประสบการณ์แบบเดสทิเนชัน (Destination Experience) สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Siam Wellness Group (SPA) ที่เน้นการขยายเครือข่ายพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมนี้มีการแข่งขันสูง โดยมีสถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนมากกว่า 17,800 แห่ง ทำให้ ONSENS ต้องเผชิญกับความท้าทายแบบ “บาร์เบล” (Barbell) คืออยู่ระหว่างผู้นำตลาดขนาดใหญ่และผู้เล่นรายย่อยจำนวนมากที่แข่งขันด้านราคา
การวิเคราะห์ SWOT ของ ONSENS
- จุดแข็ง (Strength): มีเอกลักษณ์ของแบรนด์ออนเซ็นที่แข็งแกร่งและแตกต่าง สร้างประสบการณ์ที่สมจริงและน่าเชื่อถือ
- จุดอ่อน (Weakness): รูปแบบธุรกิจต้องใช้เงินลงทุนสูงในการสร้างสาขา ทำให้การขยายตัวเป็นไปได้ช้ากว่าคู่แข่ง
- โอกาส (Opportunities): การเติบโตของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมูลค่าสูง เป็นตลาดเป้าหมายที่มีกำลังซื้อและพร้อมจ่ายเพื่อประสบการณ์ที่เหนือกว่า
- ภัยคุกคาม (Threats): การแข่งขันที่รุนแรงจากผู้นำตลาด และปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะในอุตสาหกรรม
กลยุทธ์การเติบโตในอนาคต
ONSENS วางแผนการเติบโตที่ชัดเจนใน 3 ด้านหลัก:
- ขยายสาขาและเจาะตลาดใหม่: วางแผนขยายสาขาจาก 4 แห่งในปี 2567 เป็น 12 แห่งภายในปี 2570 พร้อมเปิดตัวแบรนด์ใหม่เพื่อเจาะตลาดที่หลากหลายขึ้น ได้แก่ KLAI สำหรับ Day Spa Segment และ PAK สำหรับ Micro Spa Segment
- โครงการ Social Wellness Hotel and Spa: ทุ่มงบลงทุน 120 ล้านบาท สำหรับโครงการโรงแรมและสปาที่ทองหล่อ เพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างฐานลูกค้าในประเทศและตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติมูลค่าสูง โครงการนี้ไม่เพียงแต่จะสร้างรายได้ใหม่ แต่ยังยกระดับแบรนด์สู่ระดับสากลอีกด้วย อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ก็มีความเสี่ยงด้านการดำเนินงาน ทั้งความล่าช้าในการก่อสร้างและงบประมาณที่อาจบานปลาย
- สร้าง Synergy และเพิ่มอัตรากำไร: มุ่งเน้นการสร้างรายได้จากธุรกิจโรงแรมที่จะส่งเสริมธุรกิจสปาเดิม ควบคู่ไปกับการปรับ Product & Service Mix เพื่อเพิ่มอัตรากำไรให้สูงขึ้น
โครงสร้างรายได้และมูลค่าหุ้น
รายได้หลักของ ONSENS มาจากการให้บริการ (Service) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 85% ของรายได้รวมในปี 2567 ด้านบทวิเคราะห์จาก บล. บียอนด์ ได้ประเมินมูลค่าเหมาะสมด้วยวิธี DCF (Discounted Cash Flow) โดยอิงจาก WACC ที่ 8.3% และ Terminal Growth Rate ที่ 3.0% ได้ราคาเป้าหมายที่ 2.90 บาทต่อหุ้น

