ONEE คาด Q1 ดิ่ง! ทีวีดิจิทัลทรุด ฉุดกำไรพลิกขาดทุน-ปรับลดเป้าหนัก แนะขาย!
StandardBizNews – บล.หยวนต้า ระบุ One Enterprise (ONEE) คาด 1Q25 ไม่สดใส..อุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลซบเซา
คาด 1Q25 ขาดทุน ตามเม็ดเงินโฆษณาที่ชะลอตัว คาด 1Q25 มีผลขาดทุนปกติที่ 11 ล้านบาท ลดลงจาก 4Q24 ที่มีกำไร 107 ล้านบาท และ 1Q24 ที่มีกำไร 31 ล้านบาท
เทียบ QoQ จากปัจจัยฤดูกาล เทียบ YoY มีปัจจัยสำคัญดังนี้
- คาดรายได้รวมที่ 1,368 ล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน โดยรายได้จาก Content Marketing (รายได้จากโฆษณาและขายลิขสิทธิ์) ลดลง 33% YoY ตามอุตสาหกรรมสื่อทีวีดิจิทัลที่ชะลอตัว รายได้จากธุรกิจ Production (รับจ้างผลิตและให้เช่าสตูดิโอ) ลดลง 62% YoY เหลือ 14 ล้านบาท ปรับลดลงตามเม็ดเงินอุตสาหกรรมสื่อทีวีดิจิทัลที่ชะลอตัว ผู้ประกอบการทีวีชะลอการผลิตละคร
ขณะที่รายได้จาก Idol Marketing (รายได้จากบริหารศิลปินและจัดงานคอนเสิร์ต) ทำได้ดี มีรายได้ที่ 625 ล้านบาท เติบโต 41% YoY เนื่องจากความสำเร็จด้านเรตติ้งของซีรีส์สาย Y และยูริ ทำให้มีรายได้จากการจัดแฟนมีตและคอนเสิร์ตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 26 งาน เป็น 66 งาน - ประสิทธิภาพในการทำกำไรลดลง โดยคาด EBITDA Margin ปรับลดลงจาก 24.0% ใน 1Q24 เป็น 17.9% เนื่องจากผลของรายได้ธุรกิจ Idol Marketing ที่มีอัตรากำไรต่ำกว่าธุรกิจ Content Marketing มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 32% เป็น 46%
ปี 2025 ธุรกิจ Idol Marketing รุ่งแต่ไม่ชดเชยรายได้จาก Content Marketing ที่ชะลอตัว
แนวโน้ม 2Q25 คาดผลประกอบการฟื้นตัว QoQ แต่เทียบ YoY ยังมีทิศทางไม่สดใส เม็ดเงินโฆษณากลุ่มทีวีดิจิทัลยังชะลอตัว YoY
ขณะที่ภาพรวมปี 2025 คาด ONEE เผชิญความท้าทายเนื่องจากอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลในปีนี้ที่คาดว่ายังชะลอตัวกว่าสื่ออื่น โดย Media Intelligence Group คาดเม็ดเงินโฆษณากลุ่มทีวีดิจิทัลจะลดลง 7% YoY เนื่องจากกำลังซื้อที่ลดลงและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
ขณะที่ประเด็นสงครามการค้าแม้ไม่กระทบต่อธุรกิจของบริษัทโดยตรง แต่กระทบทางอ้อม ด้วยเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวทำให้ลูกค้าผู้ประกอบการมีการใช้งบโฆษณาน้อยลง
กลยุทธ์ของ ONEE ในปีนี้จะเน้นเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอื่นนอกจากทีวีดิจิทัล คาดว่าจะมีการจัดอีเวนต์คอนเสิร์ต และรายได้จากการบริหารศิลปินเพิ่มจากปีก่อน
ส่วนรายได้จากการขายลิขสิทธิ์คาดเติบโตดีจากการขายคอนเทนต์ให้กับแพลตฟอร์มรายใหญ่ และแอป OneD ที่เริ่มสร้างรายได้มากขึ้น
ปรับลดประมาณการสะท้อนความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ด้วยแนวโน้มอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด
ประกอบกับความเสี่ยงจากปัจจัยมหภาคที่เพิ่มขึ้น เราปรับลดกำไรปี 2025 ลงจากเดิม 24% เป็น 357 ล้านบาท (-15% YoY) และปรับลดกำไรตั้งแต่ปี 2026 ไปลง 24%
ปรับลดคำแนะนำเป็น “ขาย”
เราปรับลดคำแนะนำจากเดิม “Trading” เป็น “ขาย” ด้วยแนวโน้มอุตสาหกรรมสื่อทีวีดิจิทัลที่ซบเซามากกว่าที่เราคาด ทำให้ผลประกอบการปีนี้ชะลอตัว
เรามีการปรับลดมูลค่าพื้นฐานจากเดิมที่ 3.60 บาท เป็น 2.52 บาท สะท้อนการปรับลดกำไร อิงวิธี DCF สมมติฐาน WACC ที่ 8.7% Terminal Growth ที่ 2%